ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (7 ก.พ.) สัญญาข้าวโพดปรับตัวลงเล็กน้อย เนื่องจากผลสำรวจระบุว่าเกษตรกรสหรัฐอาจเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2487 ขณะที่สัญญาข้าวสาลีก็ปิดลบเช่นกัน จากการคาดการณ์ที่ว่าความเสียหายจากน้ำค้างแข็งในยุโรปอาจรุนแรงระดับปานกลาง
สัญญาส่งมอบข้าวโพดเดือนมี.ค. ลดลง 2 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 6.4225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาส่งมอบข้าวสาลีเดือนมี.ค. ลดลง 6.25 เซนต์ หรือ 0.9% อยู่ที่ 6.6225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาส่งมอบถั่วเหลืองเดือนมี.ค. ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 12.32 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ปัจจัยภายนอกเช่นเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และราคาน้ำมันดิบที่อ่อนแรงลงได้สร้างแรงกดดันให้ตลาดธัญพืชในการซื้อขายช่วงเช้า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบและเหล็กที่ดีดขึ้น รวมทั้งตลาดหุ้นที่ปิดบวก เป็นปัจจัยหนุนให้ราคาธัญพืชปรับขึ้นมาในช่วงบ่าย
จากข้อมูลซึ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ระบุว่า พื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดของสหรัฐในปี 2555 จะเพิ่มขึ้น 2.6% จากระดับของปีที่แล้ว รวมเป็น 94.329 ล้านเอเคอร์ ขณะที่พื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 5.2% และพื้นที่ถั่วเหลืองในสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 0.4%
เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า ความเสียหายจากภาวะแห้งแล้งในบราซิลและอาร์เจนติน่าอาจกระตุ้นให้กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ปรับลดการคาดการณ์ภาวะผลผลิตของธัญพืชในฤดูปัจจุบัน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในรายงานในวันพรุ่งนี้
เทรดเดอร์กล่าวว่า สัญญาข้าวโพดได้รับปัจจัยหนุนบาส่วน จากรายงานคาดการณ์การส่งออกผลผลิตของสหรัฐประจำสัปดาห์ ซึ่งระบุว่าอุปสงค์ของผลผลิตสหรัฐอยู่ในระยะที่ปรับสูงขึ้น และคาดว่าจะพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดหลังจากนั้น
ทิม ฮันนาแกน ผู้เชี่ยวชาญด้านธัญพืชจาก PFGbest กล่าวว่า ภาวะแห้งแล้งในเม็กซิโก อาเจนติน่า และตอนใต้ของบราซิล ทำให้อุปสงค์เพิ่มขึ้นทุกสัปดาห์ ขณะที่สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ทำให้กลุ่มผู้นำเข้าพากันซื้อธัญพืชเพื่อกักตุนไว้ หากราคาในสต็อกของอเมริกาใต้อยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้ในช่วงนี้ของปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน