ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่ง $2.24 รับมาตรการรัดเข็มขัดกรีซ

ข่าวต่างประเทศ Tuesday February 14, 2012 06:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวรัฐสภากรีซไฟเขียวมาตรการรัดเข็มขัดเพื่อช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ และสถานการณ์ทางการเมืองระหว่างอิหร่านและอิสราเอลที่ยังคงตึงเครียด อย่างไรก็ตาม การระงับซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบทางระบบอิเล็กทรอนิกเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมงอันเนื่องมาจากความผิดพลาดทางเทคนิคนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ด้วย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.24 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 100.91 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 100.87 - 99.09 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.53%ปิดที่ 117.93 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.35 - 118.61 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างคึกคัก โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้นเหนือระดับ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากรัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ ซึ่งรวมถึงการลดค่าแรงขั้นต่ำลง 22% และลดตำแหน่งงานในภาคสาธารณะ 150,000 ตำแหน่ง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

อย่างไรก็ตาม การระงับซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI, สัญญาน้ำมันเบนซิน และสัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ทางระบบอิเล็กทรอนิกเป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง อันเนื่องมาจากความผิดพลาดทางเทคนิคนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อภาวะการซื้อขายสัญญาน้ำมันดิบ WTI ด้วย

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้แรงหนุนจากสถานการณ์การเมืองที่ยังคงตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน โดยอิสราเอลกล่าวหาอิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของเลบานอนว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยระเบิด ซึ่งพุ่งตั้งเป้าไปที่เจ้าหน้าที่สถานทูตอิสราเอลในอินเดียและจอร์เจีย จนเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน

นักลงทุนจับตาดูสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 400,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.1%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ