ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมันดิบ WTI ปิดพุ่ง $2.60 รับข่าวมาตรการช่วยกรีซรอบสอง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 22, 2012 06:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ก.พ.) หลังจากที่ประชุมรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนมีมติอนุมัติมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.ปีที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 2.60 ดอลลาร์ หรือ 2.52% ปิดที่ 105.84 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.00 - 105.50 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.61 ดอลลาร์ หรือ 1.34% ปิดที่ 121.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นหลังจากรมว.คลังยูโรโซนได้บรรลุข้อตกลงในการอนุมัติมาตรการช่วยเหลือรอบ 2 สำหรับกรีซวงเงิน 1.30 แสนล้านยูโรเมื่อวานนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และจะทำให้สัดส่วนหนี้ของกรีซลดลงมาอยู่ที่ 120.5% ของจีดีพี จากปัจจุบันที่ 160% ของจีดีพี

นักลงทุนในตลาดน้ำมันมองว่า แม้มาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสองจะไม่สามารถแก้ปัญญาหนี้กรีซได้ทั้งหมดเมื่อพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ แต่อย่างน้อยก็เป็นความคืบหน้าในด้านบวกที่จะช่วยบรรเทาภาระหนี้สินของกรีซได้

ตลาดน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานของสำนักข่าว Mehr ของอิหร่านที่ระบุว่า อิหร่านอาจจะลดการส่งออกน้ำมันให้กับอีก 6 ประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งรวมถึงโปรตุเกส สเปน กรีซ อิตาลี เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ หลังจากที่อิหร่านได้หยุดส่งออกน้ำมันให้กับบริษัทในอังกฤษและฝรั่งเศสไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะทำให้เกิดภาวะสะดุดด้านอุปทานและจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอีก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากจีนประกาศลดเพดานกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะบรรเทาภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อระยะสั้น โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดการเงินของจีนราว 4 แสนล้านหยวน หรือ 6.354 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 400,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ