ภาวะตลาดน้ำมันข้อมูลศก.สหรัฐอ่อนแอ ฉุดน้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง $2.01

ข่าวต่างประเทศ Wednesday February 29, 2012 06:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (28 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่ร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะพ่งขึ้น ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้เกิดความกังวลว่าภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจจะทำให้ความต้องการพลังงานในสหรัฐหดตัวลงด้วย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.01 ดอลลาร์ หรือ 1.85% ปิดที่ 106.55 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 108.20 - 106.55 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 2.62 ดอลลาร์ หรือ 2.11% ปิดที่ 121.55 จุด ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 121.50 - 123.95 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ และทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลง โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้ออสินค้าคงทนลดลง 0.4% ในเดือนม.ค. ซึ่งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในเดือนม.ค. 2552 ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยราคาบ้านเดือนธ.ค. ลดลง 0.5%

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปีที่ 70.8 จุด จากระดับของเดือนม.ค.ที่ผ่านการทบทวนแล้วที่ระดับ 61.5 จุด เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ, ตลาดแรงงาน และสภาวะด้านการเงิน

นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำรอบ 2 ระยะ 3 ปีให้กับธนาคารพาณิชย์เพื่อช่วยหนุนสภาพคล่องในระบบการธนาคารของภูมิภาค ซึ่งนักวิเคราะห์คาดกันว่าอีซีบีจะจัดสรรสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการธนาคารในวงเงินราว 5 แสนล้านยูโร

นอกจากนี้ นักลงทุนยัวจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 ก.พ. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 800,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 85.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ