นายเชิดพงษ์ สิริวิชช์ ประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาลทราย 47 โรงลงนามความร่วมมือปรับปรุงกระบวนการผลิต สู่ค่าโพลมาตรฐาน 99.2 ดีกรี หวังผลักดันให้ตลาดน้ำตาลทรายดิบของไทยขยายตัวมากขึ้น ป้องกันน้ำตาลทรายดิบจากประเทศคู่แข่งแย่งตลาดในทวีปเอเชีย ช่วยชาวไร่อ้อยมีรายได้เพิ่มขึ้น แถมช่วยแก้ปัญหาการจัดเก็บน้ำตาลไว้ในโกดังเดียวได้
“ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของกลุ่มผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทราย ที่จะช่วยกันส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทยให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น รองรับความต้องการด้านผลผลิตน้ำตาลทรายดิบที่มีคุณภาพ และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในการทำตลาดน้ำตาลในตลาดโลก” นายเชิดพงษ์กล่าว
ด้านนายวิบูลย์ ผาณิตวงศ์ รองประธานคณะกรรมการประสานงาน 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า กลุ่มผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทรายจะเริ่มปรับปรุงกระบวนการผลิตน้ำตาลทรายดิบ เพื่อปรับคุณภาพผลผลิต โดยเพิ่มค่าความหวาน (Polarization: โพล) น้ำตาลทรายดิบมาอยู่ที่ระดับ 99.2 ดีกรี ซึ่งจะใช้เป็นค่ามาตรฐานความหวานในน้ำตาลดิบที่ใช้ส่งออก ที่จะเริ่มใช้ในฤดูการผลิตปี 2555/2556 จากเดิมที่กำหนดค่าความหวานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ ตั้งแต่ 96.00-97.99 ดีกรี ที่ใช้ส่งออกน้ำตาลทรายดิบไปยังประเทศญี่ปุ่น และค่าความหวานตั้งแต่ 98.50 ดีกรีขึ้นไป ใช้ส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศอื่นๆ
ทั้งนี้ การปรับมาตรฐานค่าความหวานน้ำตาลทรายดิบครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันของน้ำตาลทรายดิบในตลาดโลกของไทยได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากค่าความหวานน้ำตาลทรายดิบระดับ 99.2 ดีกรีนั้น ถือเป็นน้ำตาลทรายดิบที่มีคุณภาพ ที่ผู้นำเข้าสามารถนำไปรีไฟน์เป็นน้ำตาลทรายชนิดต่างๆ ในต้นทุนที่ต่ำลง ส่งผลให้น้ำตาลทรายดิบของไทยมีโอกาสส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น
“ที่ผ่านมา อินโดนีเซียและมาเลเซีย เป็นตลาดส่งออกน้ำตาลทรายดิบรายใหญ่ของเรา กลับโดนน้ำตาลทรายดิบจากประเทศบราซิลเข้ามาแย่งตลาด เนื่องจากมีค่าความหวานอยู่ที่ 99.2 ดีกรี ซึ่งมีคุณภาพน้ำตาลทรายดิบสูงกว่าของเรา แต่จากการปรับเกณฑ์กำหนดค่าความหวาน เพื่อยกระดับคุณภาพน้ำตาลทรายดิบมาอยู่ในระดับเดียวกัน จะทำให้เราช่วงชิงความได้เปรียบด้านการส่งออกน้ำตาลทรายดิบกลับมา และมีศักยภาพการแข่งขันที่สูงขึ้นด้วย ส่งผลให้เรามีโอกาสส่งออกน้ำตาลทรายดิบของไทยไปยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเซียได้มากขึ้น” นายวิบูลย์ กล่าว
พร้อมกันนี้ จะปรับเปลี่ยนสีกระสอบบรรจุภัณฑ์น้ำตาลทรายขาวที่ใช้ในการส่งออก จากสีขาวมาเป็นสีฟางข้าว เพื่อแก้ปัญหาบรรจุภัณฑ์สกปรกในระหว่างขั้นตอนการขนส่งสินค้าทางเรือ ที่ถูกนำมาใช้ในการปฏิเสธการขนส่งสินค้า มีผลทำให้โรงงานน้ำตาลทรายต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านบรรจุภัณฑ์ในระหว่างการส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ยังเดินหน้าผลักดันยกเลิกการควบคุมราคาน้ำตาลทรายในประเทศ เนื่องจากเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย อีกทั้งเราจำเป็นต้องปรับตัวรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 ซึ่งการลอยตัวราคาน้ำตาลทรายจะเป็นตัวกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และผู้ประกอบการโรงงานน้ำตาลทราย ต้องพัฒนาตนเอง เพื่อให้พร้อมรับการแข่งขันอย่างเสรี
นอกจากนี้ ในปีนี้ จะมีการจัดงานใหญ่ Bangkok Sugar Dinner ในวันที่ 11 มิ.ย.นี้ ซึ่งจะเป็นการรวมตัวของผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมน้ำตาลทราย ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวนกว่า 500 คน เพื่อหารือ แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มตลาดการค้าน้ำตาลโลกในอนาคต