สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวขึ้น 30 เซนต์ แตะ 106.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 20.57 น.ตามเวลาประเทศไทย จากที่ก่อนหน้านี้พุ่งขึ้น 1 ดอลลาร์ แตะที่ 107.16 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังมีสัญญาณว่า มาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านกำลังส่งผลให้ปริมาณการส่งออกของอิหร่านลดลง
บาร์เคลย์ส แคปิตอล เปิดเผยว่า การส่งออกน้ำมันจากอิหร่านลดลง 300,00 - 400,000 บาร์เรล/วัน หลังจากสหรัฐประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเพื่อต่อต้านโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
อิหร่านซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของกลุ่มโอเปค สามารถผลิตน้ำมันได้ 3.45 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2545
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า การคว่ำบาตรอิหร่านกำลังส่งผลกระทบต่อความสามารถของอิหร่านในการส่งออกน้ำมันของอิหร่านเร็วกว่าที่หลายคนได้คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพราะเรือบรรทุกน้ำมันที่เดินทางออกจากอิหร่านนั้น มีอุปสรรคมากขึ้นในการทำประกันภัยเรือ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 2 มี.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 832,000 บาร์เรล สู่ระดับ 345.7 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.94 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 139.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 396,000 บาร์เรล แตะระดับ 229.5 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะร่วงลง 1.9 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.3% แตะ 83.9%