สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการหดตัวลงของเศรษฐกิจทั่วโลกอาจส่งผลให้ความต้องการพลังงานซบเซาลงด้วย หลังจากอิตาลีเปิดเผยว่าเศรษฐกิจหดตัวลงในไตรมาส 4/2554 และจีนขาดดุลการค้าเป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 0.99% ปิดที่ 106.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.40 - 106.34 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 64 เซนต์หรือ 0.51% ปิดที่ 125.34 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 124.20 - 125.98 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนมียอดขาดดุลการค้า 3.148 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นการขาดดุลครั้งแรกในรอบ 1 ปี เนื่องจากการนำเข้าขยายตัวเร็วกว่าการส่งออก โดยยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 18.4% จากปีก่อน แตะที่ 1.1447 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ. น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะพุ่งขึ้น 31% ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 39.6% แตะที่ 1.4596 แสนล้านดอลลาร์
ก่อนหน้านี้ตลาดน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว หลังจากที่รัฐบาลจีนประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะทำให้ความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทต่างๆ ซบเซาลงด้วย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากอิตาลีเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 4/2554 หดตัวลง 0.7% หลังจากที่หดตัวลง 0.2% ในไตรมาส 3 ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอิตาลีกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย
นักลงทุนจับตาดูการประชุมพลังงานนานาชาติ (IEF) ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มประเทศที่สามารถผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 90% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก โดยการประชุมครั้งนี้จะจัดขึ้นที่ประเทศคูเวตเป็นเวลา 2 วันซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันพรุ่งนี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับความผันผวนของราคาน้ำมันและแหล่งพลังงานทดแทน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธนี้เวลา 22.00 น.ตามเวลาไทย