สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) เดือนพ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวลง 45 เซนต์ แตะที่ 125.36 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.06 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากซาอุดิอาระเบียเปิดเผยผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 30 ปี
Joint Organization Data Initiative (JODI) เปิดเผยข้อมูลบนเว็บไซต์ว่า ซาอุดิอาระเบีย ซึ่งผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปค ผลิตน้ำมันได้ 9.87 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 0.6% จากระดับ 9.81 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธันวาคม ส่งผลให้ผลผลิตน้ำมันเดือนดังกล่าวเกือบแตะระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในรอบกว่า 31 ปี
นอกจากนี้ JODI ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียส่งออกน้ำมัน 7.51 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้นจาก 7.36 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนธันวาคม ด้านปริมาณน้ำมันดิบสำรองของประเทศอยู่ที่ระดับ 254.6 ล้านบาร์เรลในเดือนมกราคม เพิ่มขึ้น 5.9% จากระดับ 240.6 ล้านบาร์เรลในเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ปรับตัวเพิ่มขึ้น 27 เซนต์ แตะที่ 107.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาเดือนเม.ย.จะครับกำหนดส่งมอบในวันพรุ่งนี้
แบงก์ ออฟ อเมริกา ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้ ขึ้นเป็น 118 ดอลลาร์/บาร์เรล และคาดการณ์ว่าราคาน้ำมันดิบ WTI จะเคลื่อนไหวอยู่ที่ 106 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ อันเนื่องมาจากภาวะอุปทานตึงตัว
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาไทย