ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.63 จากข่าวสหรัฐ,ฝรั่งเศสปล่อยน้ำมันสำรอง

ข่าวต่างประเทศ Friday March 30, 2012 06:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (29 มี.ค.) เนื่องจากข่าวที่ว่าสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส กำลังพิจารณาเรื่องการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉิน โดยมีเป้าหมายที่จะฉุดราคาน้ำมันให้ร่วงลง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังคงได้รับแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.63 ดอลลาร์ หรือ 2.50% ปิดที่ 102.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.77 ดอลลาร์ หรือ 1.43% ปิดที่ 122.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศส กำลังหารือกับสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ในเรื่องการระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉิน

นายฟรังซัวร์ ฟิยอง นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า "นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะทำข้อตกลงกับสหรัฐและยุโรปในเรื่องนี้" ซึ่งข่าวดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากนายชาร์ล แมคคอนเนลล์ รมช.พลังงานของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐกำลังพิจารณาเรื่องการปล่อยน้ำมันออกจากคลังยุทธภัณฑ์สำรอง (Strategic Petroleum Reserve - SPR) โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน

ปัจจุบันสหรัฐมีสต็อกน้ำมันในคลัง SPR ในปริมาณ 697 ล้านบาร์เรล โดยรัฐบาลสหรัฐจะระบายน้ำมันออกจากคลังดังกล่าวก็ต่อเมื่อเกิดภาวะอุปทานตึงตัวที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ การโจมตีของผู้ก่อการร้าย และสถานการณ์ตึงเครียดทางการเมือง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงแม้ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาเป็นบวกก็ตาม โดยหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 มี.ค. ลดลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ 359,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2551 ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย มาอยู่ที่ 365,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขยายตัว 3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งเท่ากับตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ จีดีพีไตรมาส 4 ยังขยายตัวไตรมาสที่ 10 ติดต่อกัน อีกทั้งยังเป็นอัตราการขยายตัวสูงที่สุดในรอบกว่า 1 ปี หลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 3


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ