ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) สัญญาข้าวโพดและถั่วเหลืองพุ่งขึ้นอย่างมาก ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ในภาพรวมแล้ว สัญญาธัญพืชปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เมื่อวันศุกร์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 1.71% ปิดที่ 6.55 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีปรับตัวลดลง 3.75 เซนต์ หรือ 0.57% แตะที่ระดับ 6.57 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ด้านสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น 18 เซนต์ หรือ 1.28% สู่ระดับ 14.21 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาถั่วเหลืองพุ่งสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 ก.ย. เพราะได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เปิดเผยรายงาน พื้นที่เพาะปลูกถั่วเหลืองในฤดูกาลนี้มีเพียง 73.9 ล้านเอเคอร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับคาดการณ์ที่ 75.4 ล้านเอเคอร์อยู่มาก
ขณะเดียวกันมุมมองที่ว่าถั่วเหลืองจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับสูง ก็เป็นอีกปัจจัยหนุนให้แก่ตลาด รวมทั้งกระแสข่าวอย่างต่อเนื่องที่ว่าอเมริกาใต้มีปริมาณผลผลิตต่ำลง ซึ่งอาจทำให้ความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐเพิ่มขึ้น
USDA ยืนยันว่า จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐจำนวน 120,000 ตัน สำหรับฤดูกาล 2555/2556 ขณะเดียวกันก็มีการสั่งซื้อกากถั่วเหลือง 120,000 ตันโดยไม่ทราบจุดหมายปลายทาง
สำหรับการพุ่งขึ้นในสัญญาถั่วเหลืองรวมทั้งปัจจัยภายนอกตลาด ต่างก็เป็นปัจจัยหนุนให้แก่สัญญาข้าวโพด ซึ่งยังคงปรับตัวสูงขึ้นติดต่อมาจากวันศุกร์
อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นในสัญญาข้าวโพดถูกจำกัดบางส่วน เนื่องจากสภาพอากาศในเขตมิดเวสต์ยังคงเหมาะส่งต่อการเพาะปลูกอย่างมาก ขณะเดียวกันการพยากรณ์อากาศว่าจะเกิดฝนตก ยิ่งเป็นการย้ำแนวคิดดังกล่าวในหมู่เทรดเดอร์
สภาธัญพืชระหว่างประเทศ (IGC) เปิดเผยข้อมูลล่าสุดว่า ผลผลิตข้าวโพดทั่วโลกในฤดูกาลปี 2555/2556 อยู่ที่ 900 ล้านตัน ขณะที่สต็อกทั่วโลกอยู่ที่ 129 ล้านตัน ตัวเลขดังกล่าวอาจอยู่เหนือระดับอุปสงค์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2551/2552 และสูงกว่าสต็อกฤดูกาลนี้อยู่ 7 ล้านตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน