ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.22 หลังยอดสั่งซื้อภาคโรงงานสหรัฐซบเซา

ข่าวต่างประเทศ Wednesday April 4, 2012 06:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 (QE3) นอกจากนี้ การขยายตัวที่น้อยเกินคาดของยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยที่สร้างแรงกดดันในตลาดด้วย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.22 ดอลลาร์ หรือ 1.16% ปิดที่ 104.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 104.55 - 104.01 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวลง 57 เซนต์ หรือ 0.45% ปิดที่ 124.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากยอดสั่งซื้อใหม่ของโรงงานในสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 1.3% ในเดือนก.พ. ซึ่งตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.5%

อย่างไรก็ตาม ยอดสั่งซื้อสินค้าทุน ซึ่งไม่นับรวมเครื่องบิน ปรับตัวขึ้น 1.7% ในเดือนก.พ. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2% ส่วนยอดการส่งมอบสินค้าใหม่ของโรงงาน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการทำโพสิชั่น หลังจากรายงานการประชุมของเฟดระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) มีความกังวลเกี่ยวกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวม แต่ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ในระยะนี้

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้น หลังจากซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของกลุ่มโอเปคระบุว่า ซาอุดิอาระเบียจะเดินหน้าการผลิตน้ำมันในอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แม้มีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มประเทศตะวันตกจะระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉินก็ตาม โดยซาอุดิอาระเบียมีเป้าหมายที่จะลดผลกระทบที่เกิดจากภาวะอุปทานตึงตัว อันเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน

นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ของอิหร่าน หลังจากนายอาลี-อัคบาร์ ซาเลฮี รมว.คลังอิหร่านกล่าวว่า อิหร่านจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับสหรัฐเพื่อแลกกับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งเป็นมาตรการตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของนายซาเลฮีมีขึ้นก่อนที่การประชุมนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่าน และ 5 ชาติสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน) บวกเยอรมนี หรือกลุ่ม G5+1 จะมีขึ้นในวันที่ 13 เม.ย.นี้ที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ