สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2555 และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปค ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะพุ่งขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.44 ดอลลาร์ หรือ 1.41% ปิดที่ 101.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.96 - 100.68 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.79 ดอลลาร์ หรือ 2.27% ปิดที่ 119.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจาก EIA ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันดิบทั่วโลกในปี 2555 ลง 170,000 บาร์เรล/วัน และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตน้ำมันของประเทศนอกกลุ่มโอเปค
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าอิหร่านตกลงที่จะเจรจาร่วมกับชาติตะวันตกในประเด็นนิวเคลียร์ โดยสภาความมั่นคงแห่งชาติสูงสุดของอิหร่านยืนยันว่า การเจรจาหารือเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกถาวร 5 ประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส จีน และรัสเซีย บวกกับเยอรมนี จะมีขึ้นที่เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี ในวันเสาร์ที่ 14 เมษายน
นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของประเทศทั่วโลก รวมถึงตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียง 120,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 203,000 ตำแหน่ง ขณะที่ทางการจีนรายงานว่า ปริมาณการนำเข้าน้ำมันของจีนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 5.52 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบกับ 5.87 ล้านบาร์เรลในเดือนก.พ.
การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 เม.ย.พุ่งขึ้น 6.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 476,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.2% แตะระดับ 82.2%
ข้อมูลของ API ทำให้นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของ EIA ในคืนนี้ตามเวลาประเทศไทยอย่างใกล้ชิด โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบที่รายงานโดย EIA นั้น จะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 1.0 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.2%