สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง หลังจากรองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ออกมาส่งสัญญาณว่าเฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเพื่อหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้น 94 เซนต์ หรือ 0.92% ปิดที่ 103.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 1.53 ดอลลาร์ ปิดที่ 121.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นสหรัฐ และยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางเจเน็ท เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rates) ไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปจนถึงปลายปี 2557 เป็นอย่างน้อย และกล่าวว่านโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษของเฟดเป็นสิ่งที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาจากอัตราว่างงานที่ระดับสูงและภาวะเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญกับอุปสรรคท้าทาย
ขณะที่นายวิลเลียม ดั๊ดลีย์ ผู้ว่าการเฟดสาขานิวยอร์กกล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มย้ำแย่ คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดก็พร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ของอิหร่าน หลังจากสถานีโทรทัศน์ Press TV ของอิหร่าน รายงานว่า อิหร่านมีแผนลดการนำเข้าสินค้าจากบริษัทยุโรป 100 แห่ง เพื่อตอบโต้สหภาพยุโรป (อียู) ที่เห็นชอบมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่าน
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกอียูมีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์
ภายใต้ข้อตกลงใหม่ที่มีการประกาศดังกล่าว รัฐบาลอียูต้องยุติการทำสัญญาฉบับใหม่กับอิหร่านทันทีที่คำสั่งห้ามมีผลบังคับใช้ ขณะที่สัญญาฉบับปัจจุบันอนุญาตให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2555