ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ จากเงินดอลลาร์แข็งค่าในช่วงเช้า รวมทั้งสภาพอากาศที่เหมาะสมต่อการเพาะปลูกในสหรัฐได้กระตุ้นกลุ่มนักลงทุนกองทุนเทขายสัญญาธัญพืช
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับตัวลดลง 6 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 6.2325 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ปรับร่วง 7.25 เซนต์ หรือ 1.16% มาอยู่ที่ 6.1625 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงต่ำมาก 16.75 เซนต์ หรือ 1.17% สู่ระดับ 14.2 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองต่างปรับตัวลดลงเริ่มมาตั้งแต่วันศุกร์ โดยปัจจัยภายนอกตลาดสร้างได้แรงกดดันในตลาดธัญพืช อาทิ ความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับปัญหาในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสเปน ซึ่งมีอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี พุ่งสูงขึ้นแตะ 5.95% และสร้างแรงกดดันให้กับสกุลเงินยูโร รวมทั้งสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
สำหรับสัญญาถั่วเหลืองได้รับผลกระทบมากสุดในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ และได้รับแรงกดดันสำคัญในช่วงเช้าจากข้อมูลโดย National Oilseed Processors Association (NOPA) ซึ่งรายงานว่าปริมาณถั่วเหลืองบดมีอยู่ต่ำกว่าการคาดการณ์อย่างมาก โดยในเดือนมี.ค. ปริมาณถั่วเหลืองบดอยู่ที่ 140.53 ล้านบุชเชล ต่ำกว่าระดับการคาดการณ์ที่ 143.8 ล้านบุชเชล ขณะเดียวกันอุปสงค์ถั่วเหลืองที่ลดลง และมุมมองที่ยังคงเกิดขึ้นเกี่ยวกับสภาวะตลาดมีการซื้อที่สูงเกินไป สุดฉุดสัญญาถั่วเหลืองสู่ระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.
ด้านสัญญาข้าวโพด นอกจากได้รับแรงกดดันภายนอกตลาด ยังได้รับแรงกดดันจากมุมมองของเทรดเดอร์ ซึ่งยังคงจับตามองการเพาะปลูกข้าวโพดที่มีผลผลิตอุดมสมบูรณ์จากสภาพอากาศเอื้ออำนวยต่อเพาะปลูกในสหรัฐอย่างมาก ขณะเดียวกันฝนที่ตกอย่างชุ่มฉ่ำในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมายิ่งเป็นการสนับสนุนมุมมองดังกล่าว ทำให้เกิดแรงเทขายทำกำไรซึ่งฉุดสัญญาข้าวโพดดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.
ขณะที่สัญญาข้าวสาลีก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน จากปัจจัยภายนอกตลาดเชิงลบ จากความวิตกกังวลสมทบซึ่งเกิดจากการปรับร่วงในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรอื่นๆ
สำหรับรายงานประจำสัปดาห์โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในคืนนี้ ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันอังคารเนื่องจากเหตุอัคคีภัยในอาคารอากริคัลเจอร์ของ USDA สำนักข่าวซินหัวรายงานงาน