ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.53 หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday April 19, 2012 06:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปสงค์พลังงานชะลอตัวในสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 1.53 ดอลลาร์ หรือ 1.47% ปิดที่ 102.67 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 104.51 - 102.19 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 81 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 117.97 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.70 - 118.85 ดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 เม.ย. พุ่งขึ้น 3.86 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 369.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.6 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 2.91 ล้านบาร์เรล แตะที่ 128.98 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลงเพียง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 3.67 ล้านบาร์เรล แตะที่ 213.97 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 900,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.8% แตะที่ 84.6% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจับตาดูความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสถานการณ์นิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากรัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ตัดสินใจใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินเพิ่มเติมต่ออิหร่าน สะท้อนให้เห็นว่าสวิตเซอร์แลนด์ทำตามมาตรการส่วนใหญ่ที่อียูประกาศเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2555 ได้แล้ว

แถลงการณ์ของรัฐบาลระบุว่า สวิตเซอร์แลนด์จะใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการเงินกับบริษัทอิหร่านอีก 8 แห่ง รวมถึงบุคคลอีก 3 ราย โดยกองทุนและสินทรัพย์ของบริษัทและบุคคลเหล่านี้จะถูกอายัด นอกจากนั้นยังห้ามโอนเงินหรือสินทรัพย์ให้แก่บริษัทและบุคคลเหล่านี้ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีมติห้ามนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านอย่างเป็นทางการในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ เพื่อตอบโต้อิหร่านที่ดำเนินโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งภายใต้ข้อตกลงที่มีการประกาศดังกล่าว รัฐบาลอียูต้องยุติการทำสัญญาฉบับใหม่กับอิหร่านทันทีที่คำสั่งห้ามมีผลบังคับใช้ ขณะที่สัญญาฉบับปัจจุบันอนุญาตให้ใช้ได้จนถึงวันที่ 1 กรกฎาคม 2555


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ