สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยพยุงสัญญาน้ำมันดิบ WTI ให้ปิดในแดนบวกได้ แม้สำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาดในรอบสัปดาห์ที่แล้วก็ตาม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 0.55% ปิดที่ 104.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 104.57 - 103.11 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวขึ้น 96 เซนต์ หรือ 0.8%ปิดที่ 119.12 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.45-119.25 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นด้วย หลังจากเฟดปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.2 - 2.7% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% ในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้
ในการประชุมครั้งนี้ คณะกรรมการเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0-0.25% ขณะที่นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดกล่าวว่า เฟดเตรียมที่จะใช้งบดุลของเฟดเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น
การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและการที่เฟดปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจสหรับ ได้ช่วยพยุงสัญญาน้ำมันดิบ WTI ให้สามารถปิดในแดนบวกได้ แม้ EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 เม.ย. พุ่งขึ้น 3.98 ล้านบาร์เรล สู่ 373.02 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นร่วงลง 3.05 ล้านบาร์เรล แตะที่ 125.93 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.24 ล้านบาร์เรล แตะที่ 211.73 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 700,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 84.7%