ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 94 เซนต์หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ Thursday May 3, 2012 07:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 พ.ค.) หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอย่างมากในรอบสัปดาห์ที่แล้ว และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลงหนักสุดในรอบ 3 ปี

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 94 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 105.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 106.05 - 104.92 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ร่วงลง 1.46 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 118.20 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.64-119.80 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 27 เม.ย.พุ่งขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล แตะที่ 375.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.9 ล้านบาร์เรล แตะที่ 124.0 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 2.0 ล้านบาร์เรล แตะที่ 209.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะขยับลงเพียง 800,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.3% แตะที่ 86.0% มากกว่าที่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.4%

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่ง

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานปรับตัวลง 1.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงหนักที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2552 เนื่องจากความต้องการอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งรวมถึงเครื่องบิน ดิ่งลงอย่างหนัก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ