ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (7 พ.ค.) สัญญาถั่วเหลืองและสัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลง ขณะที่สัญญาข้าวสาลีขยับขึ้น โดยมีปัจจัยนอกตลาดในเชิงลบจากผลการเลือกตั้งในยุโรปเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วสร้างแรงกดดันในตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ขยับลง 0.25 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 6.2 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 2.5 เซนต์ หรือ 0.41% สู่ระดับ 6.12 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. รูดลง 12.5 เซนต์ หรือ 0.85 % ปิดที่ 14.6575 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ตลาดสหรัฐต่างๆ ในภาพรวมเปิดตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากผลการเลือกตั้งในยุโรปสร้างความวิตกกังวลเกี่ยวกับมาตรการรัดเข็มขัดให้แก่นักลงทุน
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรของสหรัฐมีโอกาสมากที่จะปรับตัวขึ้นเหนือระดับเมื่อวันจันทร์ แต่แม้ว่ามีแรงกดดันภายนอกตลาด สัญญาข้าวโพดแล้วข้าวสาลีปิดตลาดใกล้เคียงกับระดับปิดเมื่อวันศุกร์
ด้านสัญญาถั่วเหลืองไม่สามารถปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับธัญพืชอื่นๆ และปรับตัวลดลงจากการพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ นับเป็นการปรับตัวลดลงวันที่ 4 จากวันทำการซื้อขาย 5 วัน
ด้านตลาดถั่วเหลือง เกิดกระแสข่าวจากเทรดเดอร์บางรายว่าเกิดสภาวะการซื้อสูงเกินไปในตลาด และเกิดความชัดเจนมากยิ่งขึ้นภายหลังรายงาน Commitments of Traders (COT) ระบุว่า เทรดเดอร์กองทุนและนักเก็งกำไรเข้าซื้อสุทธิทำสถิติสูงสุด
สำหรับการตรวจสอบการส่งออกข้าวสาลีสหรัฐประจำสัปดาห์อยู่ที่ 24.07 ล้านบุชเชล ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ซึ่งอยู่ที่เพียง 16 ล้านบุชเชล สำหรับผลผลิตข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวปัจจุบันประมาณการอยู่ที่ระดับ 1.64 พันล้านบุชเชล เพิ่มขึ้นจาก 1.494 พันล้านบุชเชลในปีที่แล้ว
เทรดเดอร์เดอร์ยังคงระมัดระวังต่อการมีผลผลิตข้าวสาลีจำนวนมาก แต่ก็ได้รับปัจจัยหนุนบางส่วนจากรายงาน COT ซึ่งแสดงแนวโน้มแรงซื้อคืนจากเทรดเดอร์กองทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ยังคงถือครองสัญญาช็อตโพสิชันไว้ในระดับสูง
ด้านสัญญาข้าวโพดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานการเพาะปลูกจำนวนมากในช่วงต้นฤดูกาล รวมทั้งจากพยากรณ์อากาศที่ว่าจะมีสภาพอากาศที่เหมาะสม ซึ่งจะยิ่งทำให้มีผลผลิตจำนวนมาก สำนักข่าวซินหัวรายงาน