ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (8 พ.ค.) ในขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซนและสหรัฐกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับการปรับตัวลงของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 93 เซนต์ หรือ 0.95% ปิดที่ 97.01 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลงเช่นกัน โดยปิดที่ 112.73 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลง 43 เซนต์ หรือ 0.4%
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดมีความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น หลังจากที่การเลือกตั้งในฝรั่งเศสและกรีซทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อแนวทางแก้วิกฤติหนี้ยูโรโซน ซึ่งอาจจะทำให้การฟื้นตัวอย่างยากลำบากของยูโรโซนตกอยู่ในความเสี่ยง นอกจากนี้ ข้อมูลที่อ่อนแอจากสหรัฐยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาด
ในด้านอุปทานนั้น ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้เพิ่มการผลิตน้ำมันสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 10 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยซาอุดิอาระเบียเปิดเผยว่า แม้ว่าการปรับตัวลงของราคาน้ำมันจะกระทบรายได้ของประเทศ แต่ซาอุดิอาระเบียยังต้องการที่จะดึงราคาน้ำมันลงเพื่อป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจโลกถลำลงสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง
กระทรวงพลังงานสหรัฐมีกำหนดเปิดเผยข้อมูลสต็อคน้ำมันดิบรายสัปดาห์ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ ซึ่งคาดว่าสต็อคจะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน