สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ หลังจากสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในรอบสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 96.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ ปิดที่ 113.20 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจาก EIA รายงาว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 พ.ค.พุ่งขึ้น 3.65 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 379.52 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.25 ล้านบาร์เรล แตะที่ 120.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.61 ล้านบาร์เรล แตะที่ 207 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะลดลงเพียง 100,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันปรับขึ้น 0.4% แตะที่ 86.4% มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนประเภท 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 6% ในการประมูลเมื่อวานนี้ ภายหลังจากที่มีข่าวว่า รัฐบาลสเปนจะสั่งให้ธนาคารพาณิชย์กันสำรองเงินเพิ่มขึ้น 3.5 หมื่นล้านยูโร (4.5 หมื่นล้านดอลลาร์) สำหรับหนี้อสังหาริมทรัพย์
EIA ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) โดยคาดการณ์ว่า ปริมาณการใช้น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2555 และเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ในปี 2556
นอกจากนี้ คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2555 โดยคาดว่า ปริมาณการผลิตก๊าซในตลาดโลกในปี 2555 จะเพิ่มขึ้น 2.9 พันล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน เป็น 6.914 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 6.922 หมื่นล้านลูกบาศก์ฟุต แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์
ขณะเดียวกัน EIA คาดว่า การขยายตัวของอุปทานน้ำมันเมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2555 อาจจะมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1 ล้านบาร์เรล/วัน โดยคาดว่าประเทศในแถบอเมริกาเหนือจะมีการผลิตเพิ่มขึ้นสูงสุด โดยคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 680,000 บาร์เรล/วัน และ 260,000 บาร์เรล/วันในปี 2555 และ 2556 ตามลำดับ