ภาวะตลาดน้ำมันวิตกการเมืองยุโรป,เศรษฐกิจจีน ฉุดน้ำมัน WTI ร่วง $1.35

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 15, 2012 07:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองของกรีซ นอกจากนี้ ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นของสเปนยังส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปอาจรุนแรงมากขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 1.40% ปิดที่ 94.78 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 95.83 - 93.65 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 69 เซนต์ หรือ 0.61% ปิดที่ 111.57 ดอลลาร์/บาร์เรล

สถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอนในยูโรโซนส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดเป็นไปอย่างซบเซา โดยหัวหน้าพรรคการเมืองที่เข้าร่วมเจรจาการจัดตั้งรัฐบาลของกรีซเปิดเผยว่า การเจรจาในเรื่องดังกล่าวซึ่งประธานาธิบดีคาโรลอส ปาปูลิอาส เป็นประธานในการประชุมนั้น ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นใหญ่ๆ และหลังจากที่พรรค SYRIZA ซึ่งคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ปฏิเสธร่วมรัฐบาลผสมในการเจรจาระหว่างหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้กรีซเตรียมจัดให้มีการเจรจาต่อไปอีกในวันนี้ (15 พ.ค.)

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า พรรคคริสเตียน เดโมเครติค ยูเนียน (ซีดียู) ของนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี พ่ายศึกเลือกตั้งในรัฐนอร์ท ไรน์-เวสท์ฟาเลีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ ขณะที่ พรรคโซเชียล เดโมเครติก พาร์ตี (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลัก สามารถเก็บคะแนนเสียงในรัฐดังกล่าวได้มากขึ้น ส่งผลให้พรรคครองอำนาจในระดับรัฐบาลท้องถิ่น

ตลาดได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า สเปนระดมทุนจากการขายตั๋วเงินคลังอายุ 18 เดือนได้ 711 ล้านยูโร โดยมียอดจองซื้อ 3.2 เท่า จาก 3.8 เท่าในเดือนที่แล้ว แต่อัตราผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแตะ 3.302% จาก 3.110% ในการประมูลครั้งก่อน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศว่าจะลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.นี้เป็นต้นไป รวมทั้งรายงานที่ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนเม.ย.ของจีน ขยายตัว 9.3% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ไว้ว่า จะอยู่ที่ราว 11-12% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า อุปสงค์ที่อ่อนแอทั้งภายในและต่างประเทศ กำลังส่งผลกระทบต่อการขยายตัวด้านการผลิตของจีน

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 1.4-1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะทรงตัว สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้นราว 200,000-2500,000 บาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ