สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) โดยสัญญา WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้ หลังจากมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มประเทศตะวันตกจะใช้มาตรการคว่ำบาตรมากขึ้นต่ออิหร่าน ก่อนที่การประชุมว่าด้วยประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านจะมีขึ้นในวันที่ 23 พ.ค.
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.09 ดอลลาร์ หรือ 1.19% ปิดที่ 92.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 1.67 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 108.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ผู้อำนวยการของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA) ของสหประชาชาติ ได้กดดันอิหร่านเกี่ยวกับการตรวจสอบในระหว่างการเดินทางเยือนกรุงเตหะรานเมื่อวานนี้ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการประชุมของมหาอำนาจ 6 ประเทศในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ แต่ยังไม่มีสัญญาณของการบรรลุข้อตกลงใดๆ ซึ่งคาดการณ์เกี่ยวกับการคว่ำบาตรอิหร่านมากขึ้น ดันราคาน้ำมันขึ้น
บริษัท Enterprise Products Partners LP และ Enbridge Inc. ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางบริษัทได้เริ่มส่งมอบน้ำมันเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ผ่านทางท่อส่งน้ำมันซีเวย์จากเมืองคุชชิง รัฐโอกลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นน้ำมันในแถบฮุสตัน โดยแรงกดดันด้านสต็อคที่จุดส่งมอบน้ำมัน WTI ได้บรรเทาลง ซึ่งเป็นแรงหนุนตลาดต่อไป
นอกจากนี้ คำกล่าวจากนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ได้หนุนคาดการณ์ถึงการมีใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น เพื่อผลักดันเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีน ซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ในยุโรป ความวิตกเกี่ยวกับกรีซได้บรรเทาลงบางส่วน หลังจากที่กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมจี-8 เปิดเผยในการประชุมสุดยอดในช่วงสุดสัปดาห์ว่า พวกเขาสนับสนุนให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซน และการสำรวจแสดงว่า พรรคอนุรักษ์นิยมของกรีซได้รับการสนับสนุนมากขึ้น ซึ่งสร้างความหวังเกี่ยวกับความมีเสถียรภาพทางการเมืองในกรีซ
หุ้นทั้งในยุโรปและสหรัฐปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นของตลาด