ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น ขณะสัญญาข้าวโพดปรับตัวลดลง เนื่องจากการเพาะปลูกในเวลาที่เหมาะสมทำให้มีแนวโน้มที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้จำนวนมากในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งกระตุ้นให้นักเก็งกำไรรายใหญ่ลดการเข้าซื้อสัญญาข้าวโพด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 2.5 เซนต์ หรือ 0.39% ปิดที่ 6.33 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 8.75 เซนต์ หรือ 1.26% แตะที่ 7.04 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 14.125 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันศุกร์แสดงว่า นักเก็งกำไรรายใหญ่ลดการถือครองออปชันและสัญญาล่วงหน้าข้าวโพดสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2553 เนื่องจากการเพาะปลูกในเวลาที่เหมาะสมทำให้มีแนวโน้มที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เป็นจำนวนมากในฤดูใบไม้ร่วง
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลด้านสภาพอากาศบริเวณที่ราบทางตะวันตกของสหรัฐและในส่วนต่างๆของยูเครนและรัสเซียในสัปดาห์หน้าช่วยกระตุ้นแรงซื้อและแรงซื้อคืน ซึ่งเป็นแรงหนุนในตลาด
พยากรณ์อากาศระบุวานนี้ว่า สำหรับสัญญาข้าวสาลี มีแนวโน้มว่าสภาพอากาศที่ไม่ดีนักจะทำให้การเก็บเกี่ยวธัญพืชฤดูหนาวของยูเครนลดลงเหลือ 14 ล้านตันในปี 2555 ในจำนวนนี้เป็นข้าวสาลีพันธุ์ฤดูหนาวไม่ถึง 12 ล้านตัน จากเดิม 23 ล้านตันในปี 2554
สัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้นมากถึง 3.8% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบเก้าเดือน เพิ่มเติมจากการพุ่งขึ้นสูงมากในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศแห้งกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลว่าผลผลิตจากสหรัฐและรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกชั้นนำ อาจลดลง
สำหรับสัญญาถั่วเหลือง พื้นที่บางส่วนในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐยังไม่ได้รับฝนในสัปดาห์ที่แล้ว และเทรดเดอร์วิตกกังวลว่าพื้นที่บางส่วนในบริเวณเดียวกันอาจจะไม่ได้รับฝนมากนักต่อไปอีกหนึ่งสัปดาห์หรือมากกว่านั้น มุมมองที่ว่าตลาดอาจต้องเพิ่มค่าพรีเมียมบางส่วนจากสภาพอากาศ ในกรณีที่ช่วงต้นเดือนมิ.ย.สภาพอากาศยังคงแห้งกว่าปกตินั้น ได้กระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายในตลาด
ขณะเดียวกัน การพุ่งขึ้นในตลาดข้าวสาลีและตลาดหุ้นสหรัฐช่วยสร้างแรงหนุนการซื้อขายสัญญาถั่วเหลือง สำนักข่าวซินหัวรายงาน