สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.17 ดอลลาร์ แตะที่ 91.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.12 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการที่จีนส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาในประเด็นนิวเคลียร์ของอิหร่านที่กรุงแบกแดด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นหลังจากนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวในที่ประชุมรัฐสภาจีนว่า จีนจะต้องใช้นโยบายและมาตรการเชิงรุก เพื่อเพิ่มอุปสงค์และสร้างนโยบายที่เอื้ออำนวยต่อการหนุนเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพและขยายตัวอย่างรวดเร็ว
การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์ระหว่างชาติมหาอำนาจและอิหร่านว่าด้วยโครงการปรมาณูของอิหร่านเริ่มต้นขึ้นแล้วที่กรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรักในวันนี้ โดยคณะผู้แทนเจรจาต่อรองจากสหรัฐและประเทศมหาอำนาจของโลกอีก 5 ประเทศเข้าหารือร่วมกันกับคณะทูตอิหร่าน เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ที่เรื้อรังมานานเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
นายไมเคิล มานน์ โฆษกของแคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียู เปิดเผยว่า ประเทศมหาอำนาจได้ยื่นข้อเสนอให้อิหร่านลดปริมาณการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในการประชุมเรื่องนิวเคลียร์ที่กรุงแบกแดดวันนี้
อย่างไรก็ตาม อิหร่านได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่า กลุ่มประเทศมหาอำนาจยื่นข้อเสนอแก่อิหร่านให้ลดระดับการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในระหว่างการหารือประเด็นนิวเคลียร์ที่กรุงแบกแดด
นายทาลิบ มาห์ดี ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้แทนของอิหร่าน กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวนอกรอบการประชุมนิวเคลียร์ที่อิรักว่า "ชาติมหาอำนาจโลกตะวันตกไม่ได้เสนอให้อิหร่านลดการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมจาก 20% ลงเหลือ 5% เพื่อแลกเปลี่ยนกับการผ่อนปรนการคว่ำบาตร"
อย่างไรก็ดี นายมาห์ดีกล่าวว่า "อิหร่านอาจยอมรับข้อเสนอลักษณะดังกล่าว เนื่องจากจะแสดงให้ทั่วโลกเห็นว่า อิหร่านมีสิทธิใช้พลังงานนิวเคลียร์"
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน ของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 883,000 บาร์เรล สู่ระดับ 382.53 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 พ.ค., สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 309,000 บาร์เรล สู่ระดับ 119.49 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 201.01 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.2% สู่ระดับ 88.1%