สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 พ.ค.) จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะที่การเจรจาประเด็นนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านและ 6 ชาติตะวันตกที่กรุงแบกแดดยังไม่มีความคืบหน้ามากขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 76 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 90.66 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอนส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 99 เซนต์ หรือ 0.9% ปิดที่ 106.55 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นักลงทุนจับตามองการเจรจารอบ 2 ระหว่างอิหร่านและมหาอำนาจ 6 ประเทศประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันพุธและเมื่อวานนี้ โดยมีความวิตกเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะตึงเครียด ในขณะที่ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ และมีกำหนดการเจรจาอีกรอบในเดือนหน้าที่กรุงมอสโคว์ อิหร่านกล่าวหามหาอำนาจว่าสร้าง"บรรยากาศที่ยากลำบาก"ที่ขัดขวางความคืบหน้าของการเจรจา
ด้านเศรษฐกิจนั้น คาดการณ์ถึงการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีนช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบ โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลจีนอาจจะอัดฉีดสินเชื่อเข้าสู่ภาคสาธารณูปโภคโดยหวังว่าจะป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงต่อไป
แต่ข้อมูลเมื่อวานนี้อยู่ในระดับอ่อนแอ ซึ่งลากราคาน้ำมันลง โดยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเบื้องต้นของจีนของเอชเอสบีซี ร่วงลงสู่ 48.7 ในเดือนพ.ค. จาก 49.3 ในเดือนเม.ย. นั่นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกันที่ดัชนีอยู่ต่ำกว่า 50 ซึ่งแสดงถึงการหดตัว
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดผู้ขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐลดลง 2,000 ราย สู่ระดับที่มีการปรับตามฤดูกาลแล้วที่ 370,000 รายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นั่นแสดงถึงการปรับตัวดีขึ้น แต่ยังคงอ่อนแอ คำสั่งซื้อสินค้าทนเพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย. แต่ปัจจัยบ่งชี้ประเภทที่สำคัญที่วัดการใช้จ่ายด้านการลงทุนทางธุรกิจลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน
ในยุโรป ผู้นำประชุมกันเมื่อวันพุธ และยืนยันการสนับสนุนให้กรีซยังคงอยู่ในยูโรโซน แต่เตือนให้กรีซปฏิบัติตามพันธกรณีที่ให้ไว้สำหรับการได้รับความช่วยเหลือระหว่างประเทศ และไม่มีการบรรลุข้อตกลงด้านมาตรการต่อไปซึ่งถ่วงราคาน้ำมันดิบเช่นกัน