ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (30 พ.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวร่วงทั้งหมด เนื่องจากเงินดอลลาร์แข็งค่าและพยากรณ์อากาศเป็นปัจจัยลบต่อตลาด ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 3 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 5.595 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 3 เซนต์เช่นกัน หรือ 0.46% แตะ 6.5375 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ร่วง 13.5 เซนต์ หรือ 0.97% ปิดที่ 13.7325 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เมื่อคืนนี้ปัจจัยภายนอกตลาดอยู่ในเชิงลบอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งสร้างแรงกดดันอย่างหนักให้กับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ความวิตกกังวลในบรรดานักลงทุนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินในยุโรปเป็นผลให้ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งทำให้ดอลลาร์สามารถแข็งค่าสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.2553 ดอลลาร์ที่แข็งค่าเป็นปัจจัยเชิงลบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวม เนื่องจากทำให้สินค้าโภคภัณฑ์แพงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันภายนอกตลาดจากราคาน้ำมันดิบและหุ้นที่ร่วงหนักในสหรัฐ ทำให้เกิดการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ซึ่งเทรดเดอร์สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรหลายรายส่งคำสั่งขาย
ขณะเดียวกัน ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศยังคงเป็นปัจจัยเพิ่มเติมในตลาดธัญพืช เนื่องจากพยากรณ์อากาศที่ว่าจะมีฝนมากขึ้นและอากาศจะเย็นลงในสัปดาห์หน้าถูกมองในเชิงลบ เพราะจะทำให้มีผลผลิตอุดมสมบูรณ์ตามที่เทรดเดอร์คาดการณ์ในขณะนี้
ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้สัญญาข้าวโพดิ่งสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2553 ขณะที่กระแสข่าวว่าจีนอาจนำเข้าข้าวโพดอาร์เจนติน่าก็สร้างแรงกดดันให้ตลาด เนื่องจากดูเหมือนว่าเทรดเดอร์เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์การส่งออกในอนาคต
สัญญาข้าวสาลีร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. เนื่องจากข่าวว่าจะเกิดฝนตกในรัสเซียและสต็อคข้าวสาลีที่มีเพียงพอในรัสเซีย สร้างแรงกดดันให้ตลาดมากขึ้น ซึ่งข่าวนี้เกิดขึ้นก่อนที่เทรดเดอร์จะได้รับข่าวว่า พื้นที่บางส่วนของรัสเซียประสบกับภาวะอากาศแห้งอย่างรุนแรง
สำหรับสัญญาถั่วเหลืองปรับตัวลดลงเช่นกัน เนื่องจากเทรดเดอร์กำลังจับตามองอัตราการเพาะปลูกที่เป็นไปอย่างรวดเร็วในฤดูกาลนี้จากปัจจัยสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย รายงานประจำสัปดาห์นี้ระบุว่าการเพาะปลูกถั่วเหลืองขณะนี้อยูที่ 89% สูงกว่ารายงานในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 48% อย่างมาก สำนักข่าวซินหัวรายงาน