สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. พุ่งขึ้น 1.50 ดอลลาร์ แตะที่ 86.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.02 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจาก ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 3.25% และปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปีลง 0.25% มาอยู่ที่ระดับ 6.31% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้
นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2551 ที่ธนาคารกลางจีนตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ก่อนหน้านั้นได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 5 ครั้งเพื่อระบายสภาพคล่องออกจากระบบการเงิน นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 8.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปี
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้แรงหนุนหลังจากสหรัฐและยุโรปส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานเฟด กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจอาจทำให้เฟดต้องดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปกป้องการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่อยู่ในภาวะเปราะบาง
ขณะที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีระบุว่า อีซีบีพร้อมดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ อีซีบียังให้คำมั่นสัญญาว่าจะขยายโครงการจัดหาสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงิน โดยมีเป้าหมายที่จะรับมือกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 มิ.ย. ลดลง 111,000 บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 384.63 ล้านบาร์เรล