สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมัน WTI ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัญญาปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) จะเพิ่มปริมาณการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 62 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 83.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 81.07-83.72 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ร่วงลง 86 เซนต์ หรือ 0.88% ปิดที่ 97.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 96.62-97.97 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้แรงหนุนจากแรงซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมัน WTI ร่วงลงติดต่อกัน 3 วันทำการที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน WTI ดีดตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารสเปนอีก 18 แห่งเมื่อวานนี้ โดยธนาคารที่ถูกปรับลดเครดิตในครั้งนี้ ได้รวมถึง บังเกีย ไคซาแบงก์ และบังโก ปอปูลาร์ เอสปันญอล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้รับแรงกดดันหลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) คาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 จะมีความไม่แน่นอนมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์ที่ท้าทายทั่วโลก
โอเปคระบุในรายงานประจำเดือนว่า วิกฤตยูโรโซนและภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจในภูมิภาคต่างๆนั้น ถือเป็นสาเหตุหลักของความไม่แน่นอน แต่อุปทานน้ำมันยังมีความมั่นคงอยู่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ามีการประกาศดังกล่าว แต่โอเปคคาดว่าความต้องการน้ำมันของโอเปกจะยังคงทรงตัวในปีนี้ที่ระดับ 30.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และในปีหน้าที่ระดับ 29.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน ส่วนความต้องการน้ำมันทั่วโลกคาดว่า จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1% แตะ 88.69 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้
นายอาลี อัล-ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียระบุว่า กลุ่มโอเปคอาจจำเป็นต้องเพิ่มโควต้าการผลิต ในขณะที่สหรัฐได้ยกเว้นการคว่ำบาตรสำหรับบางประเทศที่ซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่าน ซึ่งจะลดความเสี่ยงเกี่ยวกับปัญหาด้านปริมาณน้ำมัน
กลุ่มโอเปคซึ่งผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 40% ของผลผลิตน้ำมันดิบทั่วโลก จะจัดประชุมที่กรุงเวียนนาในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับปริมาณการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.5 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.2%