สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 มิ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าพายุโซนร้อน "เด็บบี้" ได้อ่อนกำลังลงก่อนที่จะมุ่งหน้าสู่รัฐฟลอริด้า นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดสัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 55 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 79.21 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.03 - 80.68 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ขยับขึ้น 3 เซนต์ ปิดที่ 91.01 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 89.60 - 91.75 ดอลลาร์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังากศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนเด็บบี้ได้อ่อนกำลังลงในขณะที่เคลื่อนตัวเข้าสู่รัฐฟลอริด้าและเคลื่อนตัวออกห่างจากแหล่งผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถผลิตน้ำมันได้ประมาณ 20% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมดที่ผลิตในสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่า สเปนได้ยื่นเรื่องขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเป็นทางการจากประเทศพันธมิตรในยูโรโซนแล้ว เพื่อช่วยเหลือภาคธนาคารที่ประสบปัญหาภายในประเทศ โดยสเปนระบุว่า ธนาคารในประเทศต้องการเงินช่วยเหลือถึง 6.2 หมื่นล้านยูโร (ประมาณ 7.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อรับมือกับวิกฤตการเงิน ซึ่งต่ำกว่าตัวเลข 1 แสนล้านยูโรที่ยูโรกรุ๊ปเสนอ
การขอความช่วยเหลือด้านการเงินของสเปนส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรของรัฐบาลสเปนพุ่งขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นว่าสเปนจะสามารถชำระคืนหนี้ได้ และยังส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักด้วย
นอกจากนี้ นักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าการประชุมผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ จะสามารถคลี่คลายวิกฤตหนี้สาธารณะได้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 91.9%