สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 มิ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการประท้วงของคนงานบริษัทน้ำมันในประเทศนอร์เวย์ และราคาบ้านของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ขยับขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 79.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 78.36 - 79.68 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 2.01 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 93.02 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจากมีข่าวการประท้วงนัดหยุดงานของคนงานของบริษัทน้ำมันในประเทศนอร์เวย์ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะปรับตัวลดลง และราคาบ้านของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น
สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ปรับตัวขึ้น 0.7% ซึ่งบ่งชี้ว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มปรับตัวสู่ช่วงขาขึ้น และสอดคล้องกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.6% สู่ระดับ 369,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้ระยะยาวและเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ 28 แห่งของสเปนลง 1 - 4 ขั้น โดยมูดีส์ระบุว่า อันดับความน่าเชื่อถือที่ลดลงของสเปนนั้น ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของรัฐบาลในการสนับสนุนภาคธนาคารเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อประวัติด้านสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ด้วย
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย.ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 700,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.0 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะทรงตัวที่ 91.9%
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมสุดยอดของบรรดาผู้นำอียูที่จะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในระหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะหารือในประเด็นกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) หรือกองทุนช่วยเหลือถาวรที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ก.ค.ปีนี้