สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงเมื่อคืนนี้ (28 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) จะไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตหนี้ยูโรโซนได้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 2.52 ดอลลาร์ หรือ 3.14% ปิดที่ 77.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 77.28-80.84 ดอลลาร์
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 2.14 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 91.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 90.88-93.85 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมสุดยอดผู้นำอียู โดยนักลงทุนมองว่าการประชุมครั้งนี้จะไม่สามารถคลี่คลายวิกฤตการณ์ได้ เนื่องจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยังคงยืนกรานอย่างหนักแน่นว่า เธอไม่เห็นด้วยกับการออกพันธบัตรหรือตั๋วเงินคลังร่วมกันในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร (ยูโรบอนด์) พร้อมกับเตือนว่ายุโรปไม่ควรหวังว่าจะมีวิธีที่รวดเร็วในการแก้ปัญหาหนี้ในภูมิภาค
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีที่แท้จริงขยายตัว 1.9% ในไตรมาสแรกของปี 2555 ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากตัวเลขประมาณการครั้งที่สอง เนื่องจากทางกระทรวงได้ปรับลดการประเมินอัตราการบริโภคส่วนบุคคลและการส่งออก
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งยังคงใกล้เคียงระดับสูงสุดในปีนี้ บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐกำลังหยุดชะงัก