สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 2.57 ดอลลาร์ แตะที่ 102.34 ดอลลาร์/บาร์เล ณ เวลา 13.09 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ดีดตัวขึ้น 0.7% แตะที่ 88.23 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายในวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากบริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของนอร์เวย์ประกาศว่าอาจจะระงับการผลิต
ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.31% โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้
การลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 1 เดือน หลังจากที่เพิ่งประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากลง 0.25% ไปเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางจีนนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2551 นอกจากนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเหนือความคาดหมายในครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่นักวิเคราะห์จำนวนมากกังวลว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอีกในไตรมาส 2 ของปีนี้
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากบริษัท Statoil ASA ของนอร์เวย์ระบุว่า การผลิตน้ำมันต่อวันที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรลอาจจะได้รับผลกระทบ หากคนงานของบริษัทยังคงเดินหน้าประท้วง
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบลดช่วงบวกลง เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% ในการประชุมวันนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันของสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจขยับลง 0.1%