สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.63 ดอลลาร์ สู่ระดับ 85.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.26 น.ในลอนดอน เนื่องจากตลาดกังวลว่าสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันลดลง
ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอนปรับตัวลดลง 1.39 ดอลลาร์ หรือ 1.4% แตะที่ 99.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจากข่าวที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จะปรับลดการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
สัญญาน้ำมันเผชิญปัจจัยลบหลังจากที่นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ กล่าวว่า ไอเอ็มเอฟจะปรับลดการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลงในปีนี้ เนื่องจากการลงทุน การจ้างงาน และการผลิตที่อ่อนตัวลงในยุโรป สหรัฐ บราซิล อินเดีย และจีน
โดยนางลาการ์ดกล่าวสุนทรพจน์ที่กรุงโตเกียววันนี้ว่า แนวโน้มของการขยายตัวทั่วโลกจะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ไว้เมื่อ 3 เดือนที่แล้ว แม้ว่าแนวโน้มที่ต่ำลงนั้น จะขึ้นอยู่กับการใช้นโยบายที่เหมาะสม โดยคาดว่าจะมีการประกาศแนวโน้มใหม่ในช่วง 10 วันข้างหน้า หลังจากที่มีการประเมินเมื่อเดือนเม.ย.ไว้ที่ 3.5% โดยตลาดประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่สำคัญอย่างบราซิล จีน และอินเดียนั้น ส่งสัญญาณของการชะลอตัวลง โดยประเทศทั้ง 3 ประเทศดังกล่าว รวมกับรัสเซีย จะคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 20% ของเศรษฐกิจโลกในปีนี้
นอกจากนั้นแล้ว ตลาดน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากกรณีที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0.75% เช่นเดียวกับธนาคารกลางจีนที่ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากระยะ 1 ปี ลง 0.25% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.31%