สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. พุ่งขึ้น 76 เซนต์ แตะที่ 85.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.34 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากมีรายงานว่า สมาคมอุตสาหกรรมน้ำมัน (OLF) ของนอร์เวย์ขู่ยุติการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วประเทศตั้งแต่วันอังคารนี้
สมาคม OLF ขู่ว่าจะยุติการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วประเทศตั้งแต่วันอังคารนี้ เพื่อต้องการบีบให้รัฐบาลหาทางออกให้กับการผละงานประท้วงที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้ หลังจากที่การเจรจาเรื่องบำนาญประสบความล้มเหลวเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันอาทิตย์
สหภาพแรงงาน 3 กลุ่มหลักของนอร์เวย์ได้ผละงานประท้วงเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหภาพเรื่องสิทธิและเงินบำนาญที่แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันจะได้รับเมื่อเกษียณอายุในวัย 62 ปี ซึ่งเป็นการเกษียณอายุก่อนกำหนด โดยสหภาพต้องการให้ผู้ที่เกษียณอายุก่อนกำหนดได้รับบำนาญเท่ากับผู้เกษียณอายุตามกำหนด
นอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ได้รับผลกระทบจากผลผลิตน้ำมันที่ลดลง 13% และผลผลิตก๊าซที่ลดลง 4% นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการผละงานประท้วงเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.เป็นต้นมา สมาคมอุตสาหกรรมน้ำมันประเมินว่า การผลิตที่ลดลงจะส่งผลให้นอร์เวย์ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 2.9 พันล้านโครน
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารนิเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 29 มิ.ย.ร่วงลง 4.27 ล้านบาร์เรล แตะที่ 382.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 2.2 ล้านบาร์เรล
ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล แตะที่ 117.8 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 151,000 บาร์เรล สู่ระดับ 205.0 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่คาดว่าจะพุ่งขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.6% สู่ระดับ 92.0%