สัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า สมาคมอุตสาหกรรมน้ำมัน (OLF) ของนอร์เวย์ขู่ยุติการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วประเทศตั้งแต่วันอังคารนี้
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.54 ดอลลาร์ หรือ 1.82% ปิดที่ 85.99 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 84.00-86.48 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน พุ่งขึ้น 2.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 100.32 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากขึ้นทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดของวันที่ 101.06 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจาก สมาคม OLF ขู่ว่าจะยุติการผลิตน้ำมันและก๊าซทั่วประเทศตั้งแต่วันอังคารนี้ เพื่อต้องการบีบให้รัฐบาลหาทางออกให้กับการผละงานประท้วงที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้ หลังจากที่การเจรจาเรื่องบำนาญประสบความล้มเหลวเป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันอาทิตย์
สหภาพแรงงาน 3 กลุ่มหลักของนอร์เวย์ได้ผละงานประท้วงเป็นเวลา 15 วัน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่รัฐบาลไม่ยอมทำตามข้อเรียกร้องของสหภาพเรื่องสิทธิและเงินบำนาญที่แรงงานในอุตสาหกรรมน้ำมันจะได้รับเมื่อเกษียณอายุในวัย 62 ปี ซึ่งเป็นการเกษียณอายุก่อนกำหนด โดยสหภาพต้องการให้ผู้ที่เกษียณอายุก่อนกำหนดได้รับบำนาญเท่ากับผู้เกษียณอายุตามกำหนด
นอร์เวย์ ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 5 ของโลก ได้รับผลกระทบจากผลผลิตน้ำมันที่ลดลง 13% และผลผลิตก๊าซที่ลดลง 4% นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการผละงานประท้วงเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.เป็นต้นมา สมาคมอุตสาหกรรมน้ำมันประเมินว่า การผลิตที่ลดลงจะส่งผลให้นอร์เวย์ได้รับความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 2.9 พันล้านโครน
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากจีนและญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนญี่ปุ่น ร่วงลง 14.8% เดือนพ.ค. มาอยู่ที่ระดับ 6.719 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดในรอบกว่า 7 ปี
ขณะที่จีนเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 2.2% ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2553 สะท้อนให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงของจีน
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สะกัดแรงบวกของตลาดน้ำมันด้วย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนอายุ 10 ปีพุ่งเหนือ 7% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่สามารถบริหารจัดการได้ในระยะยาว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีดีดตัวขึ้นเหนือ 6% ในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะปรับขึ้น 500,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.3%