ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์เมื่อคืนนี้ (9 ก.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และ ถั่วเหลือง ต่างก็ปิดพุ่งแรง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ในขณะที่การอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อการซื้อขายอีกด้วย
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 37 เซนต์ หรือ 5.34% ปิดที่ 7.3 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. พุ่งขึ้น 22 เซนต์ หรือ 2.73% แตะ 8.2825 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 42 เซนต์ หรือ 2.79% ปิดที่ 15.4775 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สินค้าโภคภัณฑ์ที่ตลาด CBOT ดีดตัวขึ้นหลังอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์และวานนี้ เนื่องจากประเด็นสภาพอากาศได้กลับมาเป็นปัจจัยหลักในการซื้อขายอีกครั้ง
ทั้งนี้ เดือนมิถุนายนและกรกฎาคมมีสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้งผิดปกติ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรขยับสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่า สภาพอากาศดังกล่าวอาจทำให้พืชได้ผลผลิตและมีคุณภาพลดลง
การรายงานสภาพอากาศเมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า อากาศจะยังคงแห้งแล้งต่อไปอีก และคาดว่าพื้นที่เพาะปลูกข้าวโพดจะมีสภาพอากาศแห้งแล้งรุนแรงที่สุด ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรต่างก็ขยับขึ้น ในขณะที่เทรดเดอร์ต่างก็มีความหวังในการทำโพสิชั่นก่อนการรายงานภาวะธัญพืชในช่วงบ่ายของจันทร์ ซึ่งเชื่อว่ารายงานดังกล่าวจะบ่งชี้ว่า คุณภาพของธัญพืชจะลดลงทุกรายการ
ตลาดโพดมีการซื้อขายที่คึกคักที่สุดในระหว่างวัน โดยพุ่งขึ้นไปแตะที่ระดับเพดานสูงสุดของการซื้อขายในตลาด CBOT ซึ่งสัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธันวาคมยังไม่แตะที่ระดับดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2554
การพุ่งขึ้นของราคาข้าวโพดยังช่วยผลักดันตลาดข้าวสาลีและถั่วเหลืองขยับขึ้นตามไปด้วย นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นทั้ง 3 ตลาดยังได้รับแรงหนุนมาจากการอ่อนค่าของเงินสกุลดอลลาร์และการปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของราคาทองคำและน้ำมันอีกด้วย สำนักข่าวซินหัวรายงาน