สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค.ร่วงลง 64 เซนต์ แตะที่ 86.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวล 12.20 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าความต้องการพลังงานในจีนซึ่งเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะชะลอตัวลง หลังจากนายเหวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า เศรษฐกิจจีนยังไม่สามารถฟื้นตัวได้เต็มที่
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีน หลังจากนายเหวินยอมรับว่า เศรษฐกิจจีนกำลังชะลอลง พร้อมระบุว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศยังไม่มีเสถียรภาพ และอาจจะยังคงมีความยากลำบากทางเศรษฐกิจต่อไปสักระยะหนึ่ง
นายเหวินกล่าวในระหว่างการเดินทางตรวจงานที่มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน พร้อมกับเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความพยายามในเสริมความแข็งแกร่งแก่ศักยภาพและพลวัตของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันศุกร์นี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ค.ร่วงลง 4.7 ล้านบาร์เรล แตะ 378.2 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดลงเพียง 1.1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ตาม สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 2.75 ล้านบาร์เรล แตะที่ 207.73 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 500,000 บาร์เรล
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูสถานการณ์ในอิหร่าน หลังจากนายอาลี ฟาดาวี ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังปกป้องการปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน กล่าวย้ำเมื่อวันเสาร์ว่ากองทัพของอิหร่านได้ควบคุมช่องแคบฮอร์มุซไว้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว พร้อมกับกล่าวว่า เขากล่าวย้ำว่าอิหร่านสามารถจะปิดช่องแคบฮอร์มุซได้เต็มที่ และจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่ความมั่นคงและผลประโยชน์ของอิหร่านไม่ได้รับผลกระทบ แต่หากสหรัฐต้องการจะสร้างความเสียหายต่อความมั่นคงของภูมิภาค ทุกฝ่ายก็จะเผชิญกับความเสียหายเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ชาติมหาอำนาจตะวันตก ซึ่งวิตกว่าอิหร่านอาจใช้แผนการนิวเคลียร์เพื่ออำพรางการพัฒนาระเบิดนิวเคลียร์นั้น ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ซึ่งรวมถึงการที่สหภาพยุโรป (อียู) ห้ามการนำเข้าน้ำมันดิบอิหร่านที่มีผลอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นความพยายามที่จะบีบให้อิหร่านยกเลิกกิจกรรมการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม