สัญญาน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดู เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะแถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อสภาคองเกรสสหรัฐ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าเบอร์นันเก้อาจจะส่งสัญญาณการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.33 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 88.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.41-88.48 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.15 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 103.55 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.07-103.69 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูเบอร์นันเก้ซึ่งจะแถลงมุมมองเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาะการบริการด้านการเงินแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ ในวันอังคารและวันพุธนี้ โดยนักลงทุนคาดหวังว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้เบอร์นันเก้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง รวมถึงมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน และปัญหาด้านการผลิตในภูมิภาคทะเลเหลือ ซึ่งสถานกาณ์เหล่านี้ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันโลกอาจจะเกิดภาวะอุปทานตึงตัว นักลงทุนติดตามดูสถานการณ์ในอิหร่าน หลังจากนายอาลี ฟาดาวี ผู้บัญชาการกองทัพเรือของกองกำลังปกป้องการปฏิวัติอิสลาม (IRGC) ของอิหร่าน กล่าวย้ำเมื่อวันเสาร์ว่ากองทัพของอิหร่านได้ควบคุมช่องแคบฮอร์มุซไว้อย่างเต็มรูปแบบแล้ว อีกทั้งยังกล่าวว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบใดที่ความมั่นคงและผลประโยชน์ของอิหร่านไม่ได้รับผลกระทบ
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 0.5% ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยอดค้าปลีกทำสถิติร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายปี 2511 ที่ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกัน 3 เดือน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.5% จากเดิม 3.6% และยังได้ปรับลดการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2556 ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.9% ซึ่งลดลง 0.2% จากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล