ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (16 ก.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่อง เนื่องจากเทรดเดอร์ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพาอากาศร้อนและแห้ง ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์อ่อนค่าช่วยกระตุ้นการซื้อขายในตลาดอย่างคึกคัก
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 32. 25 เซนต์ หรือ 4.36% ปิดที่ 7.725 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก 36.75 เซนต์ หรือ 4.34% แตะที่ 8.845 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ดีดขึ้น 38 เซนต์ หรือ 2.45% แตะที่ 15.905 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดระบุว่า สินค้าโภคภัณฑ์เกษตรทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เนื่องจากสภาพอากาศที่ใกล้เคียงกับภาวะแห้งแล้งยังคงส่งราคาธัญพืชขึ้นสู่ระดับสูงมาก
รายงานพยากรณ์อากาศล่าสุดระบุว่า อุณหภูมิในเขตมิดเวสต์จะร้อนมากในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่เขตคอร์นเบลท์ซึ่งคาดว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 100 องศาฟาเรนไฮน์
อากาศร้อนและฝนที่ตกเพียงเล็กน้อยได้ลดปริมาณและคุณภาพของธัญพืชปัจจุบันแล้ว โดยเทรดเดอร์คาดว่ารายงานสภาวะธัญพืชจะเผยให้เห็นว่าผลผลิตโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดและถั่วเหลือง อาจได้รับความเสียหายมากกว่าเดิม
ขณะเดียวกันสัญญาธัญพืชยังปรับตัวสูงขึ้นรับข่าวของกระทรวงเกษตรของรัสเซีย ซึ่งเผยตัวเลขประมาณการของผลผลิตข้าวสาลีรัสเซียอยู่ที่ 45 ล้านตัน น้อยกว่าตัวเลขประมาณการของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) อยู่ 4 ตัน นอกจากนี้ ผู้ส่งออกภาคเอกชนยังรายงานว่าญี่ปุ่นได้สั่งซื้อข้าวสาลีสหรัฐจากฤดูกาล 2555/2556 จำนวน 107,214 ตัน
สำหรับรายงานจาก National Oilseed Processors Association ระบุว่า ปริมาณถั่วเหลืองบดเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 134.156 ล้านตัน สูงกว่าระดับคาดการณ์กว่า 1 ล้านตัน และยังสูงกว่าปริมาณในเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว
นอกจากนี้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ยังได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์โดยรวมถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น สำนักข่าวซินหัวรายงาน