ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด เนื่องจากเทรดเดอร์ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศร้อนและแห้งแล้ง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 13 เซนต์ หรือ 1.69% ปิดที่ 7.8425 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 18.25 เซนต์ หรือ 2.06% แตะที่ 9.0325 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 29.5 เซนต์ หรือ 1. 82% ปิดที่ 16.2 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ในตลาดกล่าวว่า เทรดเดอร์ยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับอากาศร้อนจัดในเขตมิดเวสต์ตามการพยากรณ์อากาศสำหรับสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่เขตคอร์นเบลท์ ซึ่งจะได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ด้วยเหตุที่สภาพอากาศร้อนและแห้งดังกล่าวได้เริ่มสร้างความเสียหายให้กับปริมาณและคุณภาพของผลผลิตแล้ว มุมมองที่ว่าผลผลิตอาจเสียหายหนักกว่าเดิมในสัปดาห์หน้าจึงส่งให้ราคาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นสูงมาก
สำหรับสัญญาข้าวโพดอ่อนแรงในแดนลบเมื่อเริ่มเปิดตลาด เนื่องจากเกิดแรงเทขายทำกำไรบางส่วนในกล่มเทรดเดอร์ในขณะที่ราคายังอยู่ในระดับสูง
อย่างไรก็ดี ภาวะการซื้อขายข้าวโพดเป็นไปอย่างคึกคักหลังจากนั้น โดยได้รับแรงหนุนจากรายงานข่าวว่า สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (EPA) จะไม่ลดปริมาณน้ำมันเอธานอลที่ใช้ผสมกับน้ำมันเบนซินหรือดีเซล (Ethanol mandate) แม้ว่าความแห้งแล้งในครั้งนี้จะสร้างความเสียหายให้แก่ข้าวโพดอย่างมาก
สำหรับผลผลิตถั่วเหลืองได้รับความเสียหายจากสภาพอากาศเช่นกัน โดยเทรดเดอร์คาดว่าผลผลิตถั่วเหลืองต่อหน่วยพื้นที่จะลดลงเหลือราว 40 บุชเชลต่อเอเคอร์
ด้านสัญญาข้าวสาลีได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากข้อมูลในกลุ่มเทรดเดอร์ที่ระบุว่า ผลผลิตข้าวสาลีในภูมิภาคทะเลดำจะลดลงอีก จึงเป็นปัจจัยหนุนให้แก่การซื้อขายข้าวสาลีสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน