สัญญาน้ำมันดิบปิดร่วงลงเกือบ 4% เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป และความเป็นไปได้ที่ว่าสเปนอาจจะต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงิน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 3.69 ดอลลาร์ หรือ 4% ปิดที่ 88.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.91-91.64 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 3.57 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 103.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.42-106.94 ดอลลาร์
ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กเป็นไปอย่างตื่นตระหนก เนื่องจากวิกฤตหนี้ยูโรโซนได้จุดปะทุความวิตกระลอกใหม่ โดยมีรายงานว่าแคว้นบาเลนเซียของสเปนจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลกลางของสเปน ซึ่งส่งผลเกิดความวิตกว่าสเปนอาจจะเป็นรายต่อไปที่จะต้องขอความช่วยเหลือจากกองทุนช่วยเหลือของภูมิภาค
นอกจากนี้ ธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสเปนในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ปรับตัวลง 0.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ปี 2554 เศรษฐกิจของสเปน ที่หดตัวลง 1.0% เนื่องจากสเปนได้ใช้มาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในด้านของกรีซนั้น กลุ่มเจ้าหนี้ของกรีซจะประชุมร่วมกันในสัปดาห์นี้ ท่ามกลางความไม่เชื่อมั่นว่ากรีซจะสามารถทำตามข้อตกลงด้านการให้ความช่วยเหลือ โดยกลุ่มทรอยก้า ซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะเดินทางถึงกรุงเอเธนส์ในวันนี้
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะทรงตัว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะลดลงราว 200,000 บาร์เรล นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.4%