ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองต่างปรับตัวลดลง โดยได้รับแรกดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และแนวโน้มเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในยุโรป
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวลดลง 10.25 เซนต์ หรือ 1.29% ปิดที่ 7.855 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ลดลงต่ำมาก 30.5 เซนต์ หรือ 3.23% แตะที่ 9.1275 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ร่วงลงอย่างหนัก 64 เซนต์ หรือ 3.8% ปิดที่ 16.2225 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรถูกสกัดการพุ่งขึ้นและพลิกกลับมาอ่อนแรงเมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกตลาดเชิงลบในภาพรวมซึ่งกระทบต่อตลาดแทบทุกแห่ง
ตลาดได้รับแรงกดดันที่สำคัญจากข่าวในยุโรป ภายหลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีพุ่งสูง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของสเปนและกรีซ ขณะที่หุ้นและราคาน้ำมันดิบในสหรัฐร่วงลงอย่างหนักรับข่าวดังกล่าว นอกจากนี้ ความวิตกเกี่ยวกับยูโรโซนยังส่งให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าสูงมาก ซึ่งถือเป็นปัจจัยลบสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์เนื่องจากมีราคาแพงขึ้น
บรรยากาศในเชิงลบสร้างแรงกดดันให้สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร และทำให้สัญญาถั่วเหลืองปิดมีระดับปิดเข้าใกล้ขีดต่ำสุดที่ตลาด CBOT กำหนดไว้ที่ 70 เซนต์ต่อวัน
ด้านสภาพอากาศร้อนและแห้งในสหรัฐซึ่งก่อนหน้านี้หนุนภาวะการซื้อขายนั้น เป็นปัจจัยหนุนให้กับการซื้อขายเมื่อคืนนี้เพียงเล็กน้อย ขณะเดียวกันมีรายงานพยากรณ์อากาศส่วนหนึ่งระบุว่าจะเกิดฝนตกในสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ดี หลังมีการยืนยันแล้วว่ากระแสความร้อนได้สร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตธัญพืชทั้ง 3 ชนิด ประกอบกับกระแสคาดการณ์ในกลุ่มเทรดเดอร์ว่ากระทรวงเกษตรสหรัฐอาจปรับลดคุณภาพผลผลิตลงอีกในรายงานซึ่งเปิดเผยวานนี้ จึงทำให้ตลาดอาจได้รับแรงหนุนบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสัญญาข้าวโพดและถั่วเหลือง
รายงานตรวจสอบการส่งออกประจำสัปดาห์ระบุว่า ตัวเลขประมาณการส่งออกข้าวโพดในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 19.59 ล้านบุชเชล ลดลงจาก 21.73 ล้านบุชเชลในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าเป้าหมายในตลาดอย่างมาก สำนักข่าวซินหัวรายงาน