สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ที่ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีน ปรับตัวขึ้นในเดือนก.ค. อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของประเทศต่างๆในยุโรปชะลอตัวลง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ปรับขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.41 % มาปิด ตลาดที่ 88.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.43-89.09 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ขยับขึ้น 16 เซนต์ สู่ 103.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 102.53-104.48 ดอลลาร์
ในช่วงแรกนั้น สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นแข็งแกร่งหลังจากเอชเอสบีซี โฮลดิงส์เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีน ปรับตัวขึ้นแตะ 49.5 ในเดือนก.ค. จากตัวเลขขั้นสุดท้ายที่ 48.2 ในเดือนมิ.ย.
แต่ตลาดลดแรงบวกลงหลังจากมาร์กิตเผยดัชนี PMI รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเยอรมนีในเดือนก.ค.อ่อนแรงลงแตะ 47.3 จาก 48.1 ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวลงเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
ขณะที่ดัชนี PMI รวมทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ค.ทรงตัวที่ 46.4 แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจในยูโรโซนหดตัวลงต่อเนื่อง
การร่วงลงของดัชนี PMI ในประเทศยุโรปได้เพิ่มความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคแห่งนี้ หลังจากตลาดได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้วจากความวิตกกังวลที่ว่า กรีซอาจจะไม่ได้รับเงินกู้เบิกจ่ายงวดต่อไปมูลค่า 3.15 หมื่นล้านยูโร หากกลุ่มทรอยก้าซึ่งประกอบไปด้วยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี), ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พบว่า กรีซไม่ได้รักษาคำมั่นสัญญาในเรื่องการปรับลดงบประมาณ
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะทรงตัว ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะลดลงราว 200,000 บาร์เรล นอกจากนี้ คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจจะลดลง 0.4%