สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ค. ร่วงลง 0.8% แตะที่ 89.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.23 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจของยุโรป หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวลงมาอยู่ที่ 87.9 ในเดือนก.ค. จากระดับ 89.9 ในเดือนมิ.ย.
ตัวเลขล่าสุดถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2552 สะท้อนว่าเศรษฐกิจยังคงร่วงลงต่อเนื่องเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 3 ขณะที่รัฐบาลของหลายประเทศพยายามที่จะควบคุมวิกฤต
ทั้งนี้ รัฐบาลในยุโรปกำลังพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะควบคุมวิกฤตหนี้ ซึ่งเป็นปัจจัยที่บ่อนทำลายความเชื่อมั่น และบีบให้สเปนและไซปรัสต้องขอความช่วยเหลือทางการเงินจากนอกกลุ่ม
นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์นิวเคลียร์อิหร่าน หลังจากปรึกษาอาวุโสของผู้นำสูงสุดอิหร่านกล่าวว่า การเจรจาระหว่างอิหร่านกับกลุ่ม P5+1 ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้แก่ สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน บวกกับเยอรมนี เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน จะยังคงดำเนินต่อไปจนกว่าจะได้ผลในเชิงสร้างสรรค์และเป็นบวก
หนังสือพิมพ์เตหะราน ไทมส์ รายงานอ้างคำกล่าวของ นายอาลี-อักบาร์ เวลายาติ ที่ระบุว่า กลุ่ม P5+1 ควรยอมรับในสิทธิของอิหร่านในการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสันติ
ก่อนหน้านี้ สื่อท้องถิ่นของอิหร่านรายงานว่า นายอาลี บาเครี ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน กล่าวว่า การหารือเรื่องนิวเคลียร์กับรองหัวหน้าฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ของสหภาพยุโรป (อียู) ในกรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อไม่นานมานี้นั้นได้ผลในเชิงบวก
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ค.พุ่งขึ้น 2.72 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 380.11 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัว และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 4.13 ล้านบาร์เรล แตะที่ 210.04 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่คาดว่าจะลดลง 200,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันเพิ่มขึ้น 1.0% แตะที่ 93.0%