ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ (4 ส.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองต่างปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากปัจจัยภายนอกตลาดเชิงบวก ดอลลาร์ที่อ่อนค่า รวมทั้งความวิตกกังวลด้านสภาพอากาศอย่างต่อเนื่องเป็นปัจจัยหนุนให้แก่การซื้อขายในตลาด
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 11.75 เซนต์ หรือ 1.48% ปิดที่ 8.075 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 26.25 เซนต์ หรือ 3.03% แตะ 8.9125 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 12.25 เซนต์ หรือ 0.76% ปิดที่ 16.2875 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรสามารถสกัดช่วงขาลงที่เกิดขึ้นติดต่อกัน 3 วัน และปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากภาพรวมของตลาดต่างๆ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากรับตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่เหนือระดับคาดการณ์ ตามการรายงานเมื่อวันศุกร์
เทรดเดอร์มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ ภายหลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้น 163,000 อัตราในเดือนก.ค. ซึ่งหนุนให้ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งทะยานกว่า 200 จุด รวมทั้งราคาน้ำมันดิบและทองคำต่างพุ่งสูงขึ้นมากในวันเดียวกัน
สัญญาธัญพืชยังได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมจากดอลลาร์ที่อ่อนค่า ซึ่งถือเป็นปัจจัยบวกต่อสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร เนื่องจากทำให้ราคาถูกลงสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ สัญญาธัญพืชยังได้รับปัจจัยหนุนเพิ่มเติมที่สำคัญจากภัยแล้งในสหรัฐ โดยรายงานพยากรณ์อากาศล่าสุดยังคงระบุถึงสภาพอากาศร้อนและแห้งในเขตมิดเวสต์ และเทรดเดอร์หลายรายเชื่อว่าอาจสายเกินไปที่จะฟื้นฟูผลผลิตที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตามมีรายงานแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลือง
ขณะเดียวกัน สัญญาข้าวสาลีได้รับแรงหนุนจากรายงานว่าผลผลิตข้าวสาลีของรัสเซียและออสเตรเลียลดลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้แก่ความต้องการข้าวสาลีสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน