ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศร้อนและแห้งยังเป็นปัจจัยหนุนในตลาดอย่างต่อเนื่อง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 16 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 8.165 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 10.25 เซนต์ หรือ 1.15% แตะ 8.9925 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 15.5 เซนต์ หรือ 0. 99% ปิดที่ 15.8125 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรสามารถพลิกกลับมาสูงขึ้นปานกลาง หลังปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายก่อนหน้านี้ เนื่องจากสัญญาข้าวโพดที่พุ่งสูงมากหนุนภาวะการซื้อขายธัญพืชอื่นๆ
สัญญาข้าวโพดพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ เนื่องจากเทรดเดอร์กังวลอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับผลผลิตที่เสียหายอย่างหนักจากภัยแล้ง โดยกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) จะเปิดเผยรายงานตัวเลขประมาณการผลผลิตล่าสุด และเทรดเดอร์ส่วนหนึ่งกังวลว่าผลผลิตข้าวโพดอาจอยู่ในระดับต่ำที่ 127 บุชเชลต่อเอเคอร์
สัญญาถั่วเหลืองได้รับปัจจัยหนุนเช่นกัน จากวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพอากาศ เนื่องจากช่วงต้นเดือนส.ค.เป็นช่วงสำคัญของถั่วเหลือง ซึ่งเป็นระยะที่เม็ดถั่วเข้าฝัก และฝนที่น้อยเกินไปอาจทำให้คุณภาพถั่วเหลืองลดน้อยลง ด้านรายงานพยากรณ์อากาศระบุว่าอุณหภูมิในพื้นที่บางส่วนของเขตมิดเวสต์จะสูงถึง 100 องศาฟาเรนไฮน์ในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ สัญญาถั่วเหลืองสามารถสกัดช่วงขาลงที่เกิดขึ้นติดต่อกัน 2 วัน และปรับตัวสูงขึ้น
ด้านสัญญาข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้นเช่นกันจากสภาพอากาศเมื่อเร็วๆนี้ เทรดเดอร์เชื่อว่าราคาข้าวโพดที่สูงมาก ทำให้เกษตรกรเบี่ยงความสนใจออกจากการใช้ข้าวโพดเป็นธัญพืชเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากสามารถใช้ข้าวสาลีแทนที่ได้ มุมมองเกี่ยวกับอุปสงค์ข้าวสาลีที่เพิ่มขึ้นส่งให้สัญญาปรับตัวสูงขึ้นเฉียด 9 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นอกจากนี้สัญญาข้าวสาลียังได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศร้อนและแห้งในแถบทะเลดำและออสเตรเลีย ซึ่งอาจหนุนความต้องการข้าวสาลีสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน