สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนก.ย.ปรับตัวขึ้น 19 เซนต์ หรือ 0.2% แตะที่ 93.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.04 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า จีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของจีนปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยลดปัจจัยลบจากตัวเลขการใช้พลังงานที่ลดลงในสหรัฐ
การคาดการณ์ที่ว่าจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 1.8% ในเดือนก.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากระดับ 2.2% ในเดือนมิ.ย. ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า ทางการจีนอาจจะใช้มาตรการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ส.ค. ร่วงลง 3.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 369.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 500,000 บาร์เรล
ปัจจัยดังกล่าวในข้างต้นช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลจากรายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐที่ระบุว่า ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของสหรัฐหดตัวลง 1.1% ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เปิดเผยว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของอิรักในเดือนก.ค.อยู่ที่เหนือระดับ 3 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของสหรัฐได้บุกโค่นอำนาจซัดดัม ฮุนเซน อดีตผู้นำอิรัก