ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเทรดเดอร์ปรับโพสิชั่นก่อนการรายงานผลผลิตธัญพืชของกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ซึ่งคาดว่าปริมาณผลผลิตต่อพื้นที่จะปรับตัวลดลง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 7.25 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 8.2375 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 13.75 เซนต์ หรือ 1.53% ปิดที่ 9.13 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.ทะยาน 50 เซนต์ หรือ 3. 16% สู่ระดับ 16.3125 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เนื่องจากผลผลิตที่ธัญพืชลดลงอันเนื่องมาจากปัจจัยสภาพอากาศนั้น ได้หนุนให้สัญญาสามารถต้านทานปัจจัยเชิงลบนอกตลาดจาดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ภัยแล้งในฤดร้อนของสหรัฐปีนี้ได้สร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตข้าวโพดและถั่วเหลืองในเขตมิดเวสต์เป็นจำนวนมาก และเทรดเดอร์คาดว่ารายงานของ USDA ซึ่งจะเปิดเผยวันนี้จะเผยให้เห็นถึงความเสียหายที่รุนแรงขึ้น
เทรดเดอร์คาดว่าตัวเลขประมาณการผลผลิตข้าวโพดสหรัฐในรายงาน USDA จะลดลงอยู่ที่ราว 127 บุชเชลต่อเอเคอร์ และผลผลิตถั่วเหลืองลดลงมาอยู่ที่ 37 บุชเชลต่อเอเคอร์ ด้านรายงานพยากรณ์อากาศยังคงระบุถึงสภาพอากาศร้อนและแห้งในเขตมิดเวสต์สัปดาห์หน้า ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตธัญพืชที่เดิมมีน้อยอยู่แล้ว
นอกจากนี้เทรดเดอร์ยังคาดว่า USDA จะปรับลดตัวเลขประมาณการผลผลิตข้าวสาลีรัสเซียจากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ และเทรดเดอร์คาดว่าตัวเลขประมาณการผลผลิตข้าวสาลีโดย USDA จะอยู่ที่ราว 45 ล้านตัน จากตัวเลขประมาณการเดิม 49 ล้านตัน
ผลผลิตข้าวสาลีรัสเซียที่ลดลงอาจเป็นปัจจัยหนุนให้แก่สหรัฐ เนื่องจากเทรดเดอร์เชื่อว่าจะทำให้ความต้องการความต้องการข้าวสาลีสหรัฐจะเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงเท่านี้ สัญญาธัญพืชทั้งสามยังปรับตัวสูงขึ้นจากยอดส่งออกประจำสัปดาห์ที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนภาวะการซื้อขายให้เป็นไปอย่างคึกคักเมื่อคืนนี้ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 2 ส.ค. ยอดส่งออกข้าวโพดอยู่ที่ 1.103 ล้านตัน ยอดส่งออกข้าวสาลีอยู่ที่ 665,300 ตัน และยอดส่งออกถั่วเหลืองอยู่ที่ 300,400 ตัน
นอกจากนี้ ผู้ส่งออกสหรัฐยังรายงานว่า จีนสั่งซื้อถั่วเหลืองสหรัฐรวมทั้งสิ้น 165,000 ตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน