สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) หลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับลดคาดการณ์ความต้องการพลังงานในปีนี้และปีหน้า และหลังจากจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ลดลง 49 เซนต์ หรือ 0.52% ปิดที่ 92.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนตลอดทั้งสัปดาห์นั้น สัญญาน้ำมัน WTI ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.68%
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 27 เซนต์ หรือ 0.24% ปิดที่ 112.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนตลอดสัปดาห์นั้น สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้นทั้งสิ้น 4.01% หรือ 3.68%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงหลังจาก IEA เปิดเผยในรายงานตลาดน้ำมัน โดย IEA ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลกในปี 2555/2556 ลง 300,000-400,000 บาร์เรล/วัน เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลก พร้อมกับระบุว่า ประเทศที่ใช้น้ำมันทั่วโลกได้ปรับลดการนำเข้าจากอิหร่านลงประมาณ 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค.
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน โดยสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 1.0% ซึ่งชะลอลงหลังจากที่การส่งออกพุ่งขึ้น 11.3% ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 4.7% หลังจากดีดตัวขึ้น 6.3% ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าเดือนก.ค.ของจีนร่วงลงสู่ระดับ 2.51 หมื่นล้านดอลลาร์ เทียบกับระดับ 3.17 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมิ.ย.
ขณะเดียวกัน NBS รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 1.8% ในเดือนก.ค. จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งชะลอลงจากระดับ 2.2% ในเดือนมิ.ย. สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมาก
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดซบเซามากขึ้นหลังจากมีรายงานว่า พายุโซนร้อนเออร์เนสโต้ได้อ่อนกำลังลง และมีโอกาสน้อยลงที่จะส่งผลกระทบต่ออ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตน้ำมันดิบที่สำคัญของสหรัฐ