ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) สัญญาข้าวโพด ข้าวสาลี และถั่วเหลืองปรับตัวขึ้น เนื่องจากมุมมองเกี่ยวกับความต้องการผลผลิตสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสามารถต้านปัจจัยภัยเชิงลบนอกตลาดจากดอลลาร์ที่แข็งค่าได้
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 15 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 8.04 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.93% แตะ 8. 6625 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 36.5 เซนต์ หรือ 2.28% ปิดที่ 16.345 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
สัญญาข้าวโพดสามารถปิดเหนือระดับ 8 ดอลลาร์ต่อบุชเชลได้อีกครั้ง เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้ำมันเอธานอลที่ส่งสัญญาณเชิงบวกนั้น ช่วยหนุนความต้องการของเทรดเดอร์ โดยสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 10 ส.ค. กำลังการผลิตน้ำมันเอธานอลอยู่ที่ 819,000 บาร์เรลต่อวัน ใช้ข้าวโพดในการผลิตทั้งสิ้น 87.2 ล้านบุชเชล ถือเป็นการใช้ข้าวโพดในการผลิตเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3
ข้อมูลด้านผลผลิตเอธานอลช่วยหนุนความต้องการของเทรดเดอร์กลุ่มที่เคยกังวลเกี่ยวกับความต้องการผลผลิตข้าวโพดสหรัฐก่อนหน้านี้ เนื่องจากผลผลิตข้าวโพดในอเมริกาใต้และยูเครนขณะนี้มีราคาถูกกว่าข้าวโพดสหรัฐ
ด้านข้าวสาลีได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) ได้ปรับทวนลดตัวเลขผลผลิตข้าวสาลีรัสเซียลงในรายงานฉบับล่าสุด มาอยู่ที่ 43 ล้านตันจากตัวเลขประมาณการ 49 ล้านตันในรายงานเดือนก.ค. ขณะที่สภาพอากาศร้อนและแห้งในออสเตรเลียอาจหนุนการซื้อขายข้าวสาลีสหรัฐเช่นกัน
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังมองว่าความต้องการถั่วเหลืองสหรัฐอยู่ในระดับแข็งแกร่ง เนื่องจากสภาพอากาศได้สร้างความเสียหายถั่วเหลืองในอเมริกาใต้เป็นจำนวนมาก ขณะที่รายงานของ National Oilseed Processors Association (NOPA) ระบุว่าปริมาณถั่วเหลืองบดของสหรัฐในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน